INI Website

เวทีเชื่อมโยงผู้ต้องการวัตถุดิบปลอดภัยกับผู้ผลิตจังหวัดนนทบุรี ณ ห้องประชุมแอมเบอร์ โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ นนทบุรี วันที่ 12 พฤศจิกายน 2568

👩‍🌾🤝👩‍🍳 เวทีเชื่อมโยงผู้ต้องการวัตถุดิบปลอดภัยกับผู้ผลิตจังหวัดนนทบุรี ณ ห้องประชุมแอมเบอร์ โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ นนทบุรี วันที่ 12 พฤศจิกายน 2568

เวทีครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของการสร้างเครือข่ายระหว่างภาคการผลิต การตลาด และการบริโภคแบบครบวงจรของจังหวัดนนทบุรี ที่มีทั้งภาครัฐ-เอกชน เครือข่ายเกษตรอินทรีย์ และนักวิชาการ มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกัน ทุกฝ่ายต่างเห็นพ้องกันว่า “โรงเรียน” คือจุดเริ่มต้นของการสร้างจิตสำนึกด้านอาหารปลอดภัย เพราะเด็กคืออนาคตของคนทั้งเมือง การวางแผน “โครงการนำผักปลอดภัย มาทำอาหารกลางวันให้เด็กนักเรียน” จึงเป็นหนึ่งในหัวใจหลักของการขับเคลื่อนนโยบาย โดยจะขยายแนวคิดไปยังโรงพยาบาลและกลุ่มวัยทำงานต่อไป

🤝🍽️ เชื่อมคนกิน-คนปลูก ด้วยการจัดการตรงกลาง

หนึ่งในประเด็นที่ถูกพูดถึงมากที่สุด คือความสำคัญของ “ผู้ประสานงานตรงกลาง” คือผู้ที่ทำหน้าที่ประสานเชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย และผู้บริโภค เพื่อให้ทั้งระบบขับเคลื่อนไปได้อย่างสมบูรณ์ เพราะเกษตรกรหลายรายยังเจอปัญหาผักเกรดรองที่ไม่สามารถขายได้ ขณะที่ผักเกรดดีๆ ถูกส่งห้างสรรพสินค้าจนขาดดุล ดร.วิภาวัลย์ วรวรรณปรีชา เล่าว่า องค์กรบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรีได้ริเริ่มการรับซื้อผักเกรดกลางๆ ผ่าน “กลุ่มคลัสเตอร์โรงเรียน” เพื่อให้วางแผนการจัดจำหน่ายได้ง่ายและไม่ให้เน่าเสีย ความท้าทายอีกด้านคือข้อจำกัดจากระบบจัดซื้อแบบประมูล ทำให้ได้อาหารราคาถูกแต่คุณค่าโภชนาการน้อยกว่า ขาดความปลอดภัย และอาจปนเปื้อนสารเคมี

🧑‍🌾คุณสุนทร คมคาย แกนนำกลุ่มเกษตรอินทรีย์เขาไม้แก้ว จังหวัดปราจีนบุรี มองว่าในฝั่งผู้ผลิต เกษตรกรอินทรีย์ยังคงต้องเผชิญกับความผันผวนของตลาดและแรงกดดันจากผักราคาถูกที่นำเข้าจากต่างประเทศ จึงเสนอแนวคิดให้เกษตรกรรวมพลังกันสร้าง “นวัตกรรมทางสังคมเชิงระบบ ที่ยกระดับจากการรวมกลุ่มแบบสหกรณ์ ไปสู่การจัดการร่วมกันอย่างมีวิสัยทัศน์และยั่งยืนกว่าเดิม” เพื่อเชื่อมโยงระหว่างกันและมีพลังที่จะต่อรองได้มากขึ้น ทั้งยังเสนอให้มีการแปรรูปหรือถนอมอาหาร เช่น หมัก กวน ดอง รวมถึงนำเศษเหลือไปทำปุ๋ยหมักชีวภาพ เพื่อสร้างรายได้แบบครบวงจร โดยไม่ให้เกิดขยะเหลือทิ้ง

🗺️📊คุณดลพร ชนะชัย ได้นำเสนอ “Co-Mapping แผนภูมิระบบอาหารกับการเชื่อมโยงผลผลิตกับช่องทางตลาด” ซึ่งเป็นเครื่องมือเชิงประจักษ์ที่ช่วยให้เห็นภาพการเปลี่ยนแปลงของระบบอาหารในจังหวัดนนทบุรีแบบครบวงจร พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ บันทึกความโดดเด่นในด้านต่างๆ ของแต่ละหมุดหมายหน่วยงานในจังหวัด ทั้งยังมีข้อมูลของผู้ผลิตที่ได้รับมาตรฐานรองรับต่างๆ เพื่อสามารถเชื่อมประสานในแต่ละเนื้อหาแง่มุมได้อย่างครอบคลุม

⚙️🤲🏽 แนวทางขับเคลื่อนและการสร้างระบบร่วม

ช่วงบ่ายของเวที เป็นการแบ่งกลุ่มปฏิบัติการ 6 กลุ่ม เพื่อทบทวนต้นทุนและออกแบบเชื่อมโยงกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ “ตลาดเขียวบ้านจัดสรรค์” ที่เน้นผู้ซื้อกลุ่มมีกำลังซื้อสูง “ตลาดเขียวโรงเรียน” ที่ต้องสำรวจความต้องการผลผลิตที่หมุนเวียนไปในแต่ละวัน จนถึง “โครงการนำร่องเชื่อมโยงผลผลิตชุมชนสู่อาหารโรงเรียน” ที่จะมีองค์กรกลางมาทำหน้าที่ตรวจสอบติดตามตลอดห่วงโซ่อาหาร พร้อมกับตรวจสุขภาพเด็กๆ เพื่อประเมินผลที่ได้รับจากโภชนาการ

👩‍🔧คุณจริญญา ศรภูงาม จากศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์ย้ำว่า การเข้าสู่มาตรฐาน PGS หรือ IFOAM คือการยกระดับความมั่นคงด้านการจัดจำหน่าย เพราะจะช่วยให้ซื้อขายได้ง่ายขึ้น มีช่องทางการตลาดที่พร้อมจะรองรับ และยังสามารถจำหน่ายได้ในราคาสูง ทั้งยังสอดรับกับนโยบายธุรกิจสีเขียว ที่คำนึงถึง “คนปลูก-ราคาที่เป็นธรรม-เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”ของภาคเอกชนอย่างโรงแรมแกรนด์ริชมอนด์และเดอะมอลล์งามวงศ์วาน

🌏 เป้าหมายร่วม: โลกใบใหม่ที่ปลอดภัยกว่าเดิม

ดร.สุนทร คุณชัยมัง ให้แง่คิดที่ชัดเจนว่า หากพวกเรายังไม่เริ่มขับเคลื่อน “เกษตรอินทรีย์และระบบอาหารยั่งยืน” ตั้งแต่วันนี้ บรรษัทใหญ่จะแย่งยึดพื้นที่ช่องทางตลาดหลักของเกษตรอินทรีย์ไปอย่างแน่นอน เราจึงควรที่จะร่วมกันสร้างฐานหลักสามด้านคือ “การผลิต–การตลาด–นโยบาย” เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมและสร้างมาตรฐานใหม่ของชุมชน ที่ลดการผูกขาดและสร้างโอกาสให้เกษตรกรรายย่อยไปพร้อมกัน

🌈เวิร์คชอปในวันนี้จึงเป็นการรวมพลัง-ระดมความคิดร่วมกันครั้งสำคัญ ในการวางรากฐานนวัตกรรมสังคมเชิงระบบร่วมกัน เพื่อมุ่งสู่ความเป็นชุมชนที่มีสุขภาพดี นำมาซึ่งเศรษฐกิจท้องถิ่นที่แข็งแรง โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อความอยู่ดีกินดีของทุกคนในจังหวัดนนทบุรีอย่างมั่นคงและยั่งยืน